ประวัติศาสตร์
เดิมอำเภอฝางเป็นที่ตั้งของเมืองฝาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงในอดีต มีอายุนับพันปีในตำนานโยนกกล่าวไว้ว่า เมืองฝาง ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.
1184 โดยเจ้าลวจังกราช เป็นหัวเมืองทางตอนเหนือของอาณาจักรล้านนาพญามังรายหรือพ่อขุนเม็งรายมหาราชทรงเคยเสด็จมาปกครองเมืองฝางและประทับอยู่ที่เมืองนี้(ก่อนหน้านั้นเมืองฝางอาจจะเป็นเมืองร้างหรือถูกพญามังรายเข้ายืดจากเจ้าเมืององค์ก่อนหรือไม่ยังไม่ทราบแน่ชัด) พระองค์ทรงเตรียมกำลังพลก่อนที่จะยกทัพไปตีเมืองหริภุญชัย สร้างเวียงกุมกาม และสร้างเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.
1839 เรียกสั้นๆ ว่า
นครเชียงใหม่ต่อไป ดังนั้นเมืองฝางจึงเป็นเมืองโบราณที่มีอายุนับพันปี ปัจจุบันยังปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์คือ กำแพงเมืองและคูเมือง แบบเดียวกับในเมืองเชียงใหม่ [5]
อำเภอฝางเคยเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงราย แต่ถูกโอนมาสังกัดจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.
2468 ด้วยเหตุผลเรื่องการคมนาคมและการติดต่อราชการ อำเภอฝางได้มีการสร้างที่ว่าการอำเภอฝางขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2488 และปัจจุบันได้มีการสร้างอาคารที่ว่าการอำเภอฝางขึ้นใหม่ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2540 โดยยังคงเก็บรักษาอาคารที่ว่าการอำเภอฝาง หลังเก่าไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมอันเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงเสด็จเยี่ยมราษฎร ณ อาคารแห่งนี้เมื่อปีพุทธศักราช 2501 ต่อมาได้มีการแยกกิ่งอำเภอออกคือ กิ่งอำเภอแม่อายในปีพ.ศ. 2510 ก่อนที่ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอแม่อายในปีพ.ศ. 2516 ต่อมาได้แยกกิ่งอำเภออีกคือกิ่งอำเภอไชยปราการในปีพ.ศ. 2531 และได้ยกฐานะขึ้นเป็นอำเภอไชยปราการในปีพ.ศ. 2537
วัดเจดีย์งาม
วัดเจดีย์งามสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อ
พ.ศ. 2021 เดิมเป็นวัดร้าง ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2475 ท่านพระครูโสภณเจติยาราม อดีตเจ้าคณะอำเภอฝาง
ได้ทำการบูรณะพัฒนาขึ้นมาเป็นวัด เดิมชื่อว่า “วัดหัวกาด” ต่อมาชื่อว่า “วัดหนองไผ่” (จากคำบอกเล่าถวายของพระเดชพระคุณพระเทพวรสิทธาจารย์
เจ้าอาวาสวัดสำเภอ อดีตเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่)และตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดเจดีย์งาม” ตามองค์พระธาตุเจดีย์งาม ได้รับพระราชทานพัทธสีมา
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 เขตพัทธสีมา กว้าง 60 เมตร ยาว 80 เมตร
และเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2541 ได้มีพระบรมราชองค์การโปรดเกล้าฯ
ให้วัดเจดีย์งามได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ซึ่งมีความกว้าง 20 เมตร ยาว 30 เมตร
ประกาศเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542
พุทธศักราช
2536 ได้มีการสร้างอุโบสถขึ้นมา 1 หลังโดยทำการวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม
พ.ศ. 2536 โดยพระเดชพระคุณเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
(ช่วงวรปุญญมหาเถระ ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ
เจ้าคณะใหญ่หนเนือได้เมตตาเป็นประธานวางศิลาฤกษ์
ซึ่งเป็นอุโบสถหลังนี้สร้างด้วยศิลปะแบบไทยล้านนาผสมศิลปะแบบภาคกลาง
โดยใช้ไม้สักแกะสลักลงรักปิดทองผนังด้านนอกอุโบสถเขียนลายรดน้ำ
ประกอบเป็นภาพลายรดน้ำ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช
ส่วนผนังด้านในอุโบสถแกะสลักเป็นภาพทศชาติ และมหาชาติทำการลงรักปิดทอง
และเขียนภาพไตรภูมิพระร่วง ขนบธรรมเนียมประเพณีชาวล้านนาในอดีต
และวิถีชีวิตขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมชาวไทเขินเมืองเชียงตุง
พร้อมกันนี้ยังได้เขียนภาพประวัติของพ่อขุนเม็งรายมหาราชผู้ปกครองเมืองฝางไว้ในอุโบสถด้วย
อุโบสถหลังนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างเป็นระยะเวลา
7 ปี (2536-2542) จึงจะแล้วเสร็จ โดยมีช่างผู้ชำนาญการในการแกะสลักไม้สักทองจำนวน
5 ชุด สิ้นทุนทรัพย์ในการก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน 22 ล้าน 5 แสนบาท


